Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - FIFOrage

Pages: [1] 2 3
1
Thailand / Re: ยุบแม่งหมด YOUTH CAMP!!!
« on: September 19, 2013, 09:11:52 AM »
ถ้าเงินเยอะก็ได้คุ้มนะ  เห็นหลายคนได้  1/10/4  1/9/4 กัน

แต่เงินน้อยก็คง >:(

2
Thailand / Re: เทคโอเวอร์ ทีม LoSer
« on: September 12, 2013, 07:20:21 AM »
เจ้าของเก่าได้ให้ user กับ pass ของอีเมล์ที่ใช้สมัครมาด้วยหรือไม่ :-\
เห็นว่าสามารถ mail ไปขอระหัสกับ admin ได้ :o
บอกไว้ก่อนเผื่อวันนึง login ไม่ได้ขึ้นมา จะได้ไม่ต้องมาม่ากันอีก :-X
ป.ล.หากสะดวกที่จะเปลี่ยนชื่อทีมกับชื่อเล่นในเกมส์ได้ก็ควรจัดการซะ จะได้ไม่ต้องถูกพาดพิงครับ :)

ถ้าซื้อทีมนี่ต้อง ขออีเมลที่ใช้สมัครมาด้วยนะเนี่ย  ไม่งั้นก็ต้องส่งเรื่องหา admin ขอเปลี่ยน email ถึงจะปลอดภัย   ???

แต่ไปขอ admin เปลี่ยน email มันได้ด้วยหรอ ?? ไม่ใช่ส่งไปแล้วจะโดนแบนแทนนี่ ขำไม่ออกเลย

3
ฤดูกาลหน้าลีคไทยถูกลดโควต้าใช่หรือเปล่าครับ?


คะแนนสะสมล่าสุดไทยตกมาเป็นอันดับ 9 ซึ่งเป็นการหลุด 8 อันดับแรกมาเป็นครั้งแรก

แต่พอลองเข้าไปดูในหน้า seeding ของปีนี้ ก็ยังเห็นโควต้าของไทยยังเหมือนเดิม  แสดงว่าคะแนนสะสมอันนี้จะมีผลปีหน้าหรือเปล่า? :o

4
แสดงว่า ซีซั่นหน้าจะใช้แผน zone กองหน้ากับ am ก็ต้องเทรนพวก tacking postion ไรพวกนี้ด้วยสินะ

5
โค๊ชเค ถ้าดวงดีได้สกิลเทพๆที่ตรงกับฝึกก็เทพกว่าครับ

แต่ว่า โค๊ชคนนึงฝึกเด็กได้แค่ 5 คน  ส่วนสนามฝึกนั้นฝึกเด็กได้ทั้งทีม อันนี้คือความแตกต่างที่สำคัญ

ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ใช้ทั้งสองอย่างครับ

6
หลังจากบทวิจารณ์ในวันนั้น ทีมชาติไทยชุด U21 แก้ตัวได้อย่างสุดยอด ด้วยผลงานชนะรวดทุกนัด สุดยอดมากเลยครับ  8)

7
ถ้าเอาชัวส์ต้องไปสร้างแคมป์ประเทศที่คนเยอะๆ อย่าง อาเจน บราซิล อิตาลี   ถ้าได้ที่หนึ่งก็การันตี 10 ดาว ขึ้นไป เท่าที่เห็นมานะ ;)

8
ส่วนตัวคิดว่าระบบใหม่กับเก่าต่างกันน้อยมาก ไม่เกี่ยวกับความคึกคักของตลาดเท่าไหร่ แค่คนขายควรจะตั้งราคาเริ่มต้นให้เป้นราคาที่อยากได้จริงเท่านั้นเอง

แต่ที่ทำให้ตลาดคึกคักน้อยลงอาจจะเป็นเพราะเรื่อง % ที่จะได้จากการขายนักเตะมันจะขึ้นกับระยะเวลาที่นักเตะอยู่ในทีม  ทำให้พวกที่ชอบซื้อนักเตะมาแล้วตั้งขายทันทีทำแบบเดิมไม่ได้ ต้องรอ 2-3 ฤดูกาลถึงจะขายได้ % เยอะ  ซึ่งเรื่องนี้ก็มีหลายคนที่ชอบเพราะว่าเกมส์นี้คือเกมส์สโมสรฟุตบอลไม่ใช่เกมส์ซื้อขายหลักทรัพย์ซื้อมาขายไปอย่างเดียว แต่ก็มีหลายๆคนที่ชอบซื้อนักเตะมาแล้วขายเอากำไรอย่างรวดเร็วเซ็งกันไปตามๆกัน

9
ผมถามเพือ่นหลายคมกดมาส่วนมาได้10เองมีใครได้มากกว่านี้ไหมครับ

ในสถิติที่พรีเมี่ยมดูได้ ตอนนี้มากสุดที่เห็นคือ 13 ดาวครับ มากกว่านี้ยังไม่เห็นนะ





10
ของผมกดมาgoodก็พอทนแต่ห่วยกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วยังมีx/7/5 ปีนี้ได้ 2/7/3 2/6/4 2/7/4เอง ของมันสุ่ม
แต่v good เรทมันเยอะสุดน่าจะx/10/x ที่เหลือแล้วแต่ดวง

ปีนี้มีอคา v.good ได้ LA 13 นี่ แต่โอกาสคงน้อยมาก

http://www.gokickoff.com/prem_game_stat.php?txt_type=2

http://www.gokickoff.com/team_player_detail.php?player_id=6179645


ส่วนเรื่องไม่รีบกดแล้วกลัวฝึกไม่เต็มอันนี้ไม่ค่อยกังวลนะ  เพราะนักเตะกว่า PR จะลดนั้นต้องอายุ 22 ซึ่งมีเวลาหลายฤดูกาลมากๆที่จะฝึก

ถ้าให้ลงเล่นทุกนัดแค่ 2-3 ฤดูกาลส่วนใหญ่ 7 ดาวก็จะเต็มหมดแล้วดีไม่ดี 1 ฤดูกาลด้วย  เกินนั้นก็อีกไม่นานเท่าไหร่  ถ้าไม่คิดถึงจะรีบให้มันเก่งตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งสุดท้ายมันก็ตันอยุ่ดี

ใช้วิธีค่อยๆเลือกนักเตะน่าจะดีกว่าเร่งกดนะ

11
ในหน้า Team Report มันจะเป็นพลังของทีมเราอย่างเดียวนะครับไม่เกี่ยวกับทีมคู่แข่งเลย

เวลาใช้เทียบกับทีมคู่แข่งต้องไปดูที่ Next Match Report  แล้วเปิด 2 หน้าเทียบกันอย่างที่ ท่านต่างๆได้ตอบไปแล้ว  :P

คือถ้าเราจะใช้แผนให้ดูในส่วนของ  U ในตาราง Team Report  ไปเทียบกับ  O ของ หน้า  Next Match Report  ใครมากกว่าก็น่าจะเหนือกว่า

ในส่วน O ของ Team Report เอาไว้ป้องกันไม่ให้แผนของคู่แข่งใช้ได้สำเร็จยิ่งมากคู่แข่งใช้แผนนี้มาก็มีโอกาสเป้นลูกศรชี้ลงได้

12
Thailand / Re: ใจก่อนและใจหลัง
« on: December 07, 2012, 05:49:33 AM »

ใจล่าง ถ้าเป้นเจ้าบ้านจะบวกเพิ่มด้วยถ้าสนามเราคุณภาพดีดีนะบวกเยอะเลย

ใจล่างใครเยอะกว่าก็น่าจะได้ครองบอลเยอะกว่า(มั้ง)  แต่แพ้ชนะมันขึ้นกับอีเว้นย่อยอยู่ดีบางคนใจน้อยๆแต่ว่าคมๆขอโอกาสแค่ครั้งเดียวก็ได้ประตู กับอีกคนเน้นแผนการเล่นได้ใจเยอะๆแต่ว่านักเตะไม่มีสกิลที่มีทีเด็ดทีขาดก็ยิงไม่เข้าอยู่ดี  เพราะงั้นอย่าไปสนใจมันมากนัก

13
Thailand / Re: เกมส์สุ่ม
« on: July 27, 2012, 06:59:00 AM »
ครองบอลเยอะกว่าก็แพ้ได้เป็นปกติแบบ สเปน vs ญี่ปุ่น เมื่อวานนี้  ขึ้นกับจังหวะเข้าทำว่าใครจะแจ้งกว่า

14
ฝึกอาจจะไม่ขึ้นแต่ยังเก็บ exp ไปเรื่อยๆในการลงแข่งได้ กับได้สกิลเพิ่มเล็กน้อย

ยังไง exp ก็ค่อนข้างสำคัญมากซึ่งหลายคนไม่ค่อยสนใจ พอเห็นสกิลตันแล้วก็ไม่ค่อยส่งลงเล่น ทำให้นักเตะไม่ได้รับการพัฒนา exp  ทั้งที่เวลาลงแข่ง exp ต่างกัน 1-2 ดาว นี่ก็เห็นผลต่างกันค่อนข้างชัดเจนทีเดียว 

15
Thailand / Re: Match of the Season (MotS
« on: July 23, 2012, 08:43:47 AM »
ถ้าหากว่า Most คือการเพิ่มความุ่งมั่นใน Match นั้นๆ งั้นเวลาเราเล่นกับทีมที่มีค่าเฉลี่ยของความมุ่งมั่นสูง ก็เหมือนกับว่าเราเล่นกับทีมที่กด Most เราดิครับ ผมเข้าใจถูกไหม

ไม่เหมือนครับ อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงก็ลองใช้ดูครับ  จากคุณภาพปกติ 2.5 หัวใจ  ใช้ mots แล้วคุณภาพกลายเป็น 3.5 หัวใจเลย  เหมือนสกิลต่างๆมันเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย

มันอาการของคนที่สู้แบบทุบหม้อข้าวตัวเอง เหมือนพวกทีมหนีตกชั้นช่วงท้ายฤดูกาลในบอลลีคอังกฤษจะเล่นดีเป็นพิเศษ เพราะเป็นนัดสำคัญของทีม

16
มีแต่โอกาสน้อยมากๆ  ???

17
ทีมน้องใหม่ปีนี้แข็ง  น่าจะรอด 2-3 ทีม  ;)

18
อ๋อพอจะเข้าใจแล้ว ถ้าเราต้องการ 1 ล้าน เราก็ตั้ง 1 ล้านไปเลย
เช่น ขาย 1,000,000 G ถ้ามี 4 ทีมร่วมบิด
A=2,500,000 G + 5,000 G
B=2,500,010 G + 1,999 G
C=1,000,000 G + 5,001 G
D=1,000,004 G + 2,000 G
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ทีม D ก็ชนะไปตรงที่ค่าจ้างแพงกว่า 1 G ใช่ไหมครับ
โดยในความเป็นจริงแล้วทุกๆคนคงใส่ราคาที่ตั้งขาย 1 ล้านกว่าๆ เท่านั้น แล้วมาสู้ที่ค่าจ้างแทน

ผมก็ว่ามันก็คงไม่ต่างจากการซื้อขายเดิมมากสักเท่าไหร่ เพราะคนที่ตั้งขาย ยังไงก็คงต้องการราคาที่อยากได้อยู่แล้ว
ก็จะทำให้ในตลาดแต่ละตัวมีราคาที่สูงขึ้นทั้งนั้น ราคาที่ตั้งขั้นต่ำตัวละ 100 G ก็คงไม่มีในตลาดเลย

เพียงแต่ระบบใหม่มีเงื่อนไขระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเท่านั้น สำหรับคนที่มีตัวนักเตะอยู่ก่อนวันที่ 9/9 ยังไงก็ขายได้ในราคาที่ต้องการ
ส่วนคนที่มีนักเตะเข้าทีมหลังจากนั้น ก็รอระยะเวลาไปตามที่กำหนด ถ้าอยากจะขายได้ราคาดี ซึ่งตลาดจะเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งก็อีก 3 ฤดูกาลต่อจากนั้น
ทีนี้ก็จะเหมือนเดิมกับตอนนี้ เพียงแต่ขั้นตอนมันเพิ่มขึ้น แล้วถึงเวลานั้นเงินล้านก็ซื้อได้แต่กากๆเท่านั้น เพราะคนจะมีเงินเก็บกันมากขึ้นกว่าเดิม

ผมว่าท่านพิมพ์งงๆนะ กรณีที่ท่านยกมาทั้ง 4 คือ A-D กรณี A ต้องได้ดิ C และ D ตัดทิ้งเลยเพราะค่าตัวไม่ถึง 40% ของค่าตัวที่เสนอแพงสุดคือ B กรณีแบบนี้ทีมที่จะได้วัดกันแค่ A และ B ในส่วนของการเสนอค่าเหนื่อยที่ใครให้มากกว่ากัน A ก็จะได้ไป

ชักงงมะกี้คุณกอดเมืองไทยบอก D ได้ไป มันจะได้ไปได้ยังไง A มันให้มากกว่าทั้งเงินทั้งค่าเหนื่อย - -
555 ชักจะงงกันใหญ่
อ้าวแล้ว C เสนอราคาเท่ากับ 40 % ของ A แต่ C จ่ายค่าแรงมากกว่า A งั้น C ก็ต้องได้ไป
ทีนี้มันเกินประเด็นที่ว่า B เสนอราคามากกว่า C เกิน 40 % ถึงค่าแรงจะน้อยกว่า C แต่ B จ่ายบิดมากกว่า B ก็ต้องได้ไป
แล้วพอดีมี D เข้ามาบิด โดย D เสนอราคาเท่ากับ 40 % ของ B แต่จากค่าแรงมากกว่า B เท่ากับ 1 G

ผมว่า D ก็ต้องได้ไปซิ ซึ่ง D เสนอราคาถ้าเทียบแล้ว เท่ากับ 40% ของ B และยังจ่ายค่าแรงมากกว่า B เท่ากับ 1 G

555 ใครจะได้ไปยังไงก็ไม่เป็นไรครับ ผมพิมพ์ไปง่วงไปนะ  ::)

หรือว่า C ได้ฟะ
ตามกฏ - ผู้ที่จะชนะประมูล คือ ผู้ที่เสนอค่าจ้างแก่นักเตะสูงที่สุด โดยมีเงื่อนไขว่า ราคาประมูลนักเตะของผู้นั้นต้องไม่น้อยกว่า 40% ของราคาประมูลสูงสุด

C ให้ค่าเหนื่อย 5001 มากสุด ราคาประมูนก็ 40เปอเซนพอดี รอผู้รู้มาตอบละกัน

C ไม่ได้อยุ่แล้วครับ เพราะว่า ราคาประมูล สูงสุดคือ  2500010   
40% ของ ราคาสูงสุดคือ  1,000,004

เลยเหลือทีมวัดค่าเหนื่อยกันแค่ 3 ทีมคือ  A B D   ซึ่งใน 3 ทีมนี้ใครให้ค่าเหนื่อยสูงสุดก็จะได้ไป ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันซับซ้อนมาก

ซึ่ง A ให้ค่าเหนื่อยมากสุดก็ได้ไป


สรุป   การคิดไม่ต้องไปคิดให้มันงงหลายขั้นตอน มันมีแค่ 2 ขั้นตอนเท่านั้นคือ

1.  ดูค่าตัวที่เสนอก่อนว่า สัญญาของทีมไหนบ้างที่มีสิทธิผ่านเข้าถึงตัวนักเตะได้พิจารณา  คือ ไม่น้อยกว่า 40% ของข้อเสนอสูงสุด

2. ทีมที่ผ่านรอบแรก(ข้อ 1 ) วัดค่าเหนื่อยกันเพียวๆไม่ต้องสนค่าตัวที่ยื่นมา  ใครให้ค่าเหนื่อยเยอะสุดก็ได้ตัวไป

19
Dได้ไปแม่นแล้ว แต่ผมฟันธงว่าอีก2-3ฤดูกาลนักเตะในตลาดทั่วไปจะราคาถูกลงมาก(เอาแค่หลังกฏนี้เริ่มใช้ก็จะเริ่มถูกลงแล้ว) ทีมที่จะซื้อนักเตะไปใช้งานจริงๆก็จะเป็นทีมน้องใหม่เพิ่งเล่นฤดูกาลแรกเป็นหลัก พวกที่เล่นมานานเกิน3ฤดูกาลก็จะแข่งกันอัพอคาเดมี่และพึ่งเด็กจากอคาเดมี่ตัวเองอย่างเดียวซึ่งสามารถกดเด็กได้ปีละ7ตัวแถมใช้โทเค่นเพิ่มโควต้าเพื่อคัดเด็กดาวดีๆมาใช้งาน ทำให้มีเด็กเก่งล้นทีมยังไงก็ต้องระบายออก(เพราะไม่อยากจ้างให้เปลืองค่าเหนื่อย) ทำให้นักเตะราคาถูกเพราะคนขายจะมากกว่าคนซื้อ

วิเคราห์ได้สุดยอดเลยครับ  8)

แต่ได้ยินว่าระบบอคาเดมี่ก็เปลี่ยนเหมือนกันที่มีให้โหวตตอนต้นฤดูกาลไรสักอย่างไม่รุจะเป็นยังไง

ส่วนค่าตัวนักเตะพวก 5-7 ดาวต่อไปอาจจะลงมาแน่นอน เพราะนักเตะมันจะล้น จนกลายเป้นนักเตะดาดๆไป  แต่พวกนักเตะดาวเยอะๆระดับ 8-9 ดาวขึ้นไปเชื่อว่าราคาก็ยังสูงเหมือนเดิมอาจจะสูงกว่าเดิมด้วย เพราะจำนวนน้อยลงและทีมที่มีนักเตะ 7 ดาวทั้งทีมจะเยอะขึ้นทำให้เวลาจะเสริมทัพจะมองหานักเตะระดับ 8-9 ดาวขึ้นไปกันหมดจึงต้องมาแย่งกันสูงขึ้น

20
ผมงงนิดๆครับ ตรงข้อนี้ครับ
- ผู้ที่จะชนะประมูล คือ ผู้ที่เสนอค่าจ้างแก่นักเตะสูงที่สุด โดยมีเงื่อนไขว่า ราคาประมูลนักเตะของผู้นั้นต้องไม่น้อยกว่า 40% ของราคาประมูลสูงสุด

สมมุติ1. ตั้งขายไว้ที่ 2,500,000 G แล้วมีทีมบิด 2 ทีมดังนี้

A=10,000 G ค่าจ้าง 2,000
B=4,000 G ค่าจ้าง 2,001

ซึ่งเมื่อสรุปแล้ว ทีม B ชนะบิดไป ก็จะจ่ายเป็นเงิน 6,001 G หรือ จ่าย 4,000 G ครับ

แล้วถ้าเป็นแบบนี้พวกนักเตะที่คนชอบตั้งราคาเว่อร์ๆ ร้อยล้าน พันล้าน เราก็มาแย่งกันบิดโดยใส่ราคาได้ตามสะดวกเลยซิครับ
เช่นราคาอาจจะแข่งกันอยู่ที่หลักแสน ก็จะออกไปที่ราคาที่แข่งกันใช่ไหมครับ
ทีนี้ถ้าใครเผลอกดตั้งขายโชว์สกิลเด็กๆก็จะโดนซื้อไปเลยแน่ๆไม่ว่าจะตั้งด้วยราคาใดก็ตามใช่ไหมครับ

หรือว่าระบบจะพิจารณาจากราคาที่เราตั้งไว้แทน
เพราะเราตั้งไว้ที่ 2,500,000 G เผื่อให้ได้ราคาที่ 1,000,000 จากคนที่ร่วมบิดถ้าเกิดว่าใส่เท่ากัน แล้ววัดกันที่ค่าจ้างแทน

สมมุติ2. ตั้งขายไว้ที่ 2,500,000 G แล้วมีทีมบิด 2 ทีมดังนี้
A=10,000 G ค่าจ้าง 2,000
B=4,000 G ค่าจ้าง 2,001

พอจบการประมูล ระบบจะบอกว่าการซื้อขายไม่สำเร็จ เพราะราคาบิดน้อยกว่า 40% ของราคาที่ตั้งขาย

ผมก็เลยงงๆว่า ความหมายของไม่น้อยกว่า 40% ของราคาประมูลสูงสุด มันหมายถึงแบบไหนกันแน่ครับ ::)
1.ความหมายของไม่น้อยกว่า 40% ของราคาประมูลสูงสุด หมายถึงการเสนอราคา 40%ของผู้ที่ใส่ราคาประมูลสูงสุดของนักเตะตัวนั้น
2.จากสมมุติ2. ตั้งขายไว้ที่ 2,500,000 G แล้วมีทีมบิด 2 ทีมดังนี้
A=10,000 G ค่าจ้าง 2,000
B=4,000 G ค่าจ้าง 2,001
จะไม่มีใครบิดนักเตะได้ เพราะคนที่จะบิดต้องใส่ราคา2.5ล้านก่อน แล้วค่อยใส่ค่าจ้างต่อสัปดาห์อีกต่างหาก เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะบิดนักเตะตัวนี้คุณต้องมีเงินขั้นต่ำ2.5ล้านและเสนอราคาขั้นต่ำ2.5ล้านถึงจะสามารถบิดได้ แล้วค่อยไปวัดกันที่ค่าแรงรายสัปดาห์เหมือนเดิม

*สรุปคือการประมูลทุกอย่างยังเหมือนเดิมแค่มีค่าแรงเพิ่มขึ้นมาที่เราต้องใส่ในการประมูล ส่วนใครจะได้หรือไม่ก็ต้องไปดูกติกาตามข้อ1ที่ผมบอกไว้

อ๋อพอจะเข้าใจแล้ว ถ้าเราต้องการ 1 ล้าน เราก็ตั้ง 1 ล้านไปเลย
เช่น ขาย 1,000,000 G ถ้ามี 4 ทีมร่วมบิด
A=2,500,000 G + 5,000 G
B=2,500,010 G + 1,999 G
C=1,000,000 G + 5,001 G
D=1,000,004 G + 2,000 G
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ทีม D ก็ชนะไปตรงที่ค่าจ้างแพงกว่า 1 G ใช่ไหมครับ
โดยในความเป็นจริงแล้วทุกๆคนคงใส่ราคาที่ตั้งขาย 1 ล้านกว่าๆ เท่านั้น แล้วมาสู้ที่ค่าจ้างแทน

ผมก็ว่ามันก็คงไม่ต่างจากการซื้อขายเดิมมากสักเท่าไหร่ เพราะคนที่ตั้งขาย ยังไงก็คงต้องการราคาที่อยากได้อยู่แล้ว
ก็จะทำให้ในตลาดแต่ละตัวมีราคาที่สูงขึ้นทั้งนั้น ราคาที่ตั้งขั้นต่ำตัวละ 100 G ก็คงไม่มีในตลาดเลย

เพียงแต่ระบบใหม่มีเงื่อนไขระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเท่านั้น สำหรับคนที่มีตัวนักเตะอยู่ก่อนวันที่ 9/9 ยังไงก็ขายได้ในราคาที่ต้องการ
ส่วนคนที่มีนักเตะเข้าทีมหลังจากนั้น ก็รอระยะเวลาไปตามที่กำหนด ถ้าอยากจะขายได้ราคาดี ซึ่งตลาดจะเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งก็อีก 3 ฤดูกาลต่อจากนั้น
ทีนี้ก็จะเหมือนเดิมกับตอนนี้ เพียงแต่ขั้นตอนมันเพิ่มขึ้น แล้วถึงเวลานั้นเงินล้านก็ซื้อได้แต่กากๆเท่านั้น เพราะคนจะมีเงินเก็บกันมากขึ้นกว่าเดิม

ไม่ถูกซะทีเดียว ที่บอกว่าไม่ต่างจากระบบเก่าแค่ตั้งค่าตัวขั้นต่ำ

เพราะในมุมของผู้ซื้อจะมีความแตกต่างอยู่ดี ถ้าทีมขายตั้งค่าตัว 1 ล้าน แล้วมีทีมแข่งกัน bid  4 ทีม   4 ทีมนี้จะจ่าย 1 ล้านเท่าเดิมก็จริง  แต่ค่าเหนื่อยต่อๆไปมันจะเพิ่มมหาศาล  จากเดิมเราจ่ายแค่ค่าเหนื่อยขั้นต่ำให้นักเตะเท่านั้น

ต่อไปพวกนักเตะค่าตัวราวๆ 600k อาจจะได้ค่าเหนื่อนกัน  20-50k ต่อสัปดาห์ แล้ว มันจะจำกัดการที่แต่ละทีมจะมีนักเตะเก่งๆได้น้อยลง เพราะไปตันที่เพดานค่าเหนื่อยแทน

สุดท้ายเรื่องเงินเฟ้อก็น่าจะชะลออัตราเงินเฟ้อได้ดีกว่าเดิม ตรงที่ค่าใช้จ่ายพวกค่าเหนื่อยมีแนวโน้มจะสูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายแต่ละทีมเพิ่มขึ้น ทำให้เงินสะสมของแต่ละทีมจะมีลดลง ค่าตัวนักเตะในการซื้อขายน่าจะชะลอตัวได้เยอะทีเดียว

21
นักเตะ A price=100g. B bid=100k wage=2,100 , C bid=40k wage=2,300 ,D bid=35k wage=2,400

ใครได้นักเตะ A และได้ในราคาเท่าไหร่ และค่าเหนื่อยเท่าไหร่ // ลองทายกันเล่นๆ ครับ ตามความเข้าใจ

C bid=40k wage=2,300

22
จากที่อ่านๆมาสรุปว่า

ต่อไปถ้าอัพเดตใหม่แล้ว

จะขายนักเตะไม่ควรตั้งราคาต่ำๆ เพราะว่ามีโอกาสได้ราคาขายแค่ 40% ของราคาสูงสุดได้

ให้ตั้งราคาที่เราต้องการขายไปเลยดีกว่าแล้ว ทีมส่วนใหญ่ต่อไปคงบิตแค่เท่าราคาขั้นต่ำ แล้วไปแข่งค่าเหนื่อยกัน  เพราะว่า ถ้าตั้งราคาขายที่  2ล้าน การที่จะบิตชนะแบบขาดลอย อย่างต่ำๆต้องบิตที่ 5 ล้าน ขึ้นไป  ซึ่งคงยอมไปแข่งค่าเหนื่อยดีกว่าไปเพิ่มค่าตัวแข่ง


23
 8)

น่าจะมีคนมาวิเคราะห์ว่าใน 6 ทีมน้องใหม่ ทีมไหนจะไม่ตกชั้น หรือตกชั้น เมื่อจบฤดูกาลบ้าง จะได้เป็นประโยชน์ตอนทายผล mini game   :P

24
สุดยอดมากครับ

ทั้งที่ในสโมสรดูจากค่าตัวนักเตะแล้วไม่น่าสู้ทีมอื่นได้เลย นักเตะค่าตัวพอพอกับลีค B บางทีมด้วยซ้ำ  แต่กลับทำผลงานได้แชมป์ท็อปลีค นับถือในฝีมือจริงๆ  8)

25
 8) ดีแล้วครับ เงินมันเฟ้อขึ้นทุกที  จากฤดูกาลที่ 3  มี 400k ก็ซื้อตัวเก่งๆได้ละ แต่ตอนนี้มี 1 M ยังซื้อไม่ค่อยจะได้

เอาค่าเหนื่อยมาเป็นปัจจัยนึงทำให้การซื้อขายนักเตะค่าตัวจะได้ถูกลงมาหน่อย และ แต่ละทีมก็ไม่สามารถให้ค่าเหนื่อยได้แบบไม่จำกัดเพราะติดเพดาน ทำให้ต้องเลือกซื้อนักเตะเก่งๆได้ไม่กี่คนต่อทีม

Pages: [1] 2 3